สินค้าโภคภัณฑ์ คืออะไร ? มีอะไรบ้าง ? และวิธีลงทุนที่คุณต้องรู้
- Cryptorex Academy
- 23 ม.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 18 มี.ค.
สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่นักลงทุนเลือกใช้เพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน เนื่องจากราคาของสินค้าประเภทนี้ถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยพื้นฐานด้าน อุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก ทำให้เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว หากคุณต้องการเพิ่มโอกาสทำกำไรจากสินค้าโภคภัณฑ์ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวทางการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ได้ง่ายขึ้น

สินค้าโภคภัณฑ์ คืออะไร ?
สินค้าโภคภัณฑ์ คือ วัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่มีมาตรฐานคุณภาพสากล สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ในตลาด โดยราคาจะถูกกำหนดตามกลไกอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก
สินค้าโภคภัณฑ์มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมัน ข้าวโพด และทองคำ การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีความสมดุล

สินค้าโภคภัณฑ์ มีอะไรบ้าง ?
สินค้าโภคภัณฑ์สามารถแบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่หลัก ได้แก่
1. สินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มพลังงาน
สินค้าในกลุ่มนี้เป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญของเศรษฐกิจโลก และมีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง
น้ำมันดิบ (Crude Oil)
ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas)
ถ่านหิน (Coal)
2. สินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มโลหะมีค่า
เหมาะสำหรับการลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน เนื่องจากมีความปลอดภัยและมูลค่าคงที่
ทองคำ (Gold)
เงิน (Silver)
แพลทินัม (Platinum)
พาลลาเดียม (Palladium)
3. สินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มโลหะอุตสาหกรรม
กลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ทองแดง (Copper)
อลูมิเนียม (Aluminum)
เหล็ก (Steel)
สังกะสี (Zinc)
4. สินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มสินค้าเกษตร
เป็นสินค้าจำเป็นที่ใช้บริโภคทั่วโลก และได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศและนโยบายเกษตรของแต่ละประเทศ
ข้าว (Rice)
ข้าวโพด (Corn)
ถั่วเหลือง (Soybean)
น้ำตาล (Sugar)
กาแฟ (Coffee)

3 วิธีลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์
หากคุณสนใจลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ มีวิธีการลงทุนหลัก ๆ ที่สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม ดังนี้
1. การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures)
เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์สูงและต้องการผลตอบแทนที่รวดเร็ว โดยสามารถทำกำไรได้ทั้งในช่วงราคาขาขึ้นและขาลง การลงทุนผ่านสัญญาฟิวเจอร์สช่วยให้คุณซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์โดยไม่ต้องถือครองสินค้าจริง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้มีความเสี่ยงสูงและต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
ข้อดี
โอกาสทำกำไรสูงในระยะสั้น
ใช้เงินลงทุนต่ำกว่าการซื้อสินค้าจริง
ข้อเสีย
ความเสี่ยงสูง
ต้องมีความรู้และประสบการณ์
2. การลงทุนผ่านกองทุน ETF สินค้าโภคภัณฑ์
การลงทุนผ่านกองทุน ETF (Exchange-Traded Fund) เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการความสะดวกและใช้เงินลงทุนน้อย ETF เป็นกองทุนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์และติดตามดัชนีของสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน หรือธัญพืช
ข้อดี
ความสะดวกในการซื้อขาย
ใช้เงินลงทุนน้อย
ความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนใน Futures
ข้อเสีย
อาจมีค่าธรรมเนียมการจัดการ
ไม่สามารถควบคุมการลงทุนได้โดยตรง
3. การลงทุนในหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์
การลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น บริษัทเหมืองแร่ บริษัทพลังงาน หรือบริษัทเกษตรกรรม เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการเติบโตของธุรกิจและเงินปันผล
ข้อดี
มีโอกาสได้รับเงินปันผล
ความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนตรงในสินค้าโภคภัณฑ์
ข้อเสีย
ราคาหุ้นอาจผันผวนตามปัจจัยทางธุรกิจ
คำแนะนำสำหรับการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์
การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ต้องอาศัยการศึกษาและติดตามปัจจัยที่มีผลต่อราคาเพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพ นักลงทุนควรคำนึงถึงคำแนะนำดังต่อไปนี้
เข้าใจปัจจัยพื้นฐาน
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ถูกขับเคลื่อนโดย อุปสงค์และอุปทาน สภาพภูมิอากาศ นโยบายของประเทศผู้ผลิตและเศรษฐกิจโลก
เริ่มจากสินค้าที่คุ้นเคย
ควรเริ่มลงทุนในสินค้าที่มีความเข้าใจ เช่น ทองคำ หรือน้ำมัน ซึ่งมีข้อมูลและวิเคราะห์ได้ง่าย
กระจายความเสี่ยง
ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภท เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด

สรุป ทำไมต้องลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ?
การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการ กระจายความเสี่ยง และสร้างโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลก ด้วยการเลือกวิธีลงทุนที่เหมาะสมและเข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อราคา คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
หากคุณต้องการเริ่มต้นลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ศึกษาข้อมูล และเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม เพื่อให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด
Opmerkingen